ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกม พรีเมียร์ลีก นัดโดน เบรนท์ฟอร์ด บุกตบถึงที่ 0-2 แพ้รวด 5 เกมซ้อน : Player Ratings

ถูกมองว่าเป็นเกมที่ เชลซี ควรกลับมาได้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ควรประเดิม 3 แต้มแรกได้เสียที เมื่อสถานการณ์ของ เบรนท์ฟอร์ด คือลอยตัว เล่นแบบรอจบซีซั่น แต่สุดท้ายก็ยังไม่วาย พ่ายคาสแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกเหมือนเช่นเคย (เซซ่าร์ อัซปลิกวยต้า ยิงตัวเอง น.37, บริย็อง เอ็มเบโม่ น.78) จนเป็นการแพ้ติดต่อกัน 5 นัดเข้าไปแล้วนับตั้งแต่ แลมพาร์ด เข้านั่งเก้าอี้ คะแนนนักเตะเชลซี เคปา อาร์ริซาบาลาก้า – 4 สิบกว่านาทีแรกแทบไม่ได้ออกจอ แต่จากโอกาสแรกของ เบรนท์ฟอร์ด ก็เสียประตูทันทีจากเตะมุมที่เพื่อนร่วมทีมทำพลาดกันเอง ขณะที่ครึ่งหลังก็หายไปจากเกมอีก จนมาเสียลูก 0-2 ให้ บริย็อง เอ็มเบโม่ แบบที่ป้องกันไม่สำเร็จ เทรโวห์ ชาโลบาห์ – 5 เริ่มเกมเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวซ้าย ซึ่งชัดเจนว่าเจอบททดสอบเบากว่าที่ต้องรับมือ โรดรีโก้ โกเอส ที่มาดริด ทำให้เล่นอย่างมั่นใจขึ้น จากนั้นครึ่งหลังถ่างไปยืนแบ็กขวา ทว่าก็ดูจะไม่ใช่งานถนัดเท่าไหร่ ด้วยเกมรุกค่อนข้างบอด ติอาโก้ ซิลวา – 5 คุมแนวรับในฐานะแกนกลางและกัปตันทีม พร้อมสอดขึ้นไปโขกตรงกรอบ น.23 ที่เป็นโอกาสจบแรกของ เชลซี รวมถึงยังพยายามเสริมเกมจากแดนหลังอยู่เป็นระยะ ติดก็ตรงที่เพื่อนข้างหน้าทำไม่ได้เลย ก่อนจะมาเสีย 0-2 ด้วยลูกแฉลบตัวเขาเข้าไป เวสลี่ย์ โฟฟาน่า – 4 ยืนตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กตัวขวา พยายามเติมเกมรุกช่วยงาน อัซปิลิกวยต้า ที่ฝั่งขวาอยู่ตลอด และถือว่าครึ่งแรกไม่มีงานอะไรมาก แต่เมื่อครึ่งหลังปรับมายืนเซนเตอร์คู่ ก็โดนเจาะเข้าตรงๆ โดน บริย็อง เอ็มเบโม่ ลากหนีไปส่องลูก 2-0 อย่างง่ายดาย เบน ชิลเวลล์ – 5 ขึ้นสุดลงสุดที่ฝั่งซ้ายเหมือนเช่นเคย แต่กลายเป็นว่านัดนี้ค่อนข้างเงียบ มีโอกาสเล่นกับบอลจำกัด โดยเฉพาะครึ่งหลังที่ เบรนท์ฟอร์ด ถอยร่นไปเล่นเกมรับเต็มอัตรา แบ็กซ้ายอย่าง ชิลเวลล์ จึงไม่ค่อยเฉิดฉาย มาเคโอ โควาซิช – 5 เป็นตัวจ่ายตัวออกบอลทั้งสั้นยาวในแดนกลาง แต่ครึ่งหลังก็ลดบทบาทและการมีส่วนร่วมลงไปเมื่อมีการเปลี่ยนแท็กติก จนน่าตั้งข้อสังเกตว่า ลักษณะการเล่นดูทับซ้อนกับ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ไปเสีย เอ็นโซ เฟร์นานเดซ – 5 หน้าที่คล้ายๆ โควาซิช แต่เพิ่มงานเกมรับมาด้วย โดยมีสอดขึ้นไปส่องเข้ากรอบช่วงครึ่งชั่วโมงแรก แต่ไม่ยากไปสำหรับนายทวาร จากนั้นก็ถือว่าเป็นอีกเกมที่ไม่โดดเด่นอะไร ยังไม่ใช่ฟอร์มแบบที่คว้าแชมป์โลกตอนปลายปี ในที่สุดก็โดนเปลี่ยนออก เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า – 4 ฟิตกลับคืนตัวจริงนัดแรกในรอบนานนับเดือน เพื่อทดแทน รีซ เจมส์ ที่เจ็บเพิ่มไป และโชคร้ายที่บอลลอยมาโดนตัวเขาจนเสียลูก 0-1 ท้ายครึ่งแรก ขณะที่เกมรุกไม่อาจสร้างความวูบวาบได้เหมือนตอนมี เจมส์ อยู่ ก่อนถูกถอดออกตอนเริ่มครึ่งหลังเพื่อเปลี่ยนระบบ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ – 6 ยืนเป็นกองกลางตัวรุกฝั่งซ้าย วิ่งเยอะและมีบทบาทกับเกมครึ่งแรกเยอะทีเดียว แต่ครึ่งหลังโดนถอดออกไปเนื่องจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด ต้องการเปลี่ยนแท็กติก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ – 5 เริ่มเกมที่การเป็นกลางรุกฝั่งขวา แต่ก็ยังขยันวิ่งลงไปช่วยเกมรับในทุกจังหวะ รวมถึงว่ามีโอกาสช่วยเกมรุกในหลายครั้ง แต่ก็ยังขาดคุณภาพในจังหวะสุดท้ายไปหน่อย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง – 4 เริ่มต้นด้วยการถูกวางเป็นหน้าเป้าตัวหลอกอีกครั้ง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่การเล่นตรงนี้ ไม่เวิร์ค บอลผ่านไปผ่านมาจนแทบไม่ได้สัมผัส ไม่อาจสร้างจังหวะทะลุทะลวงด้วยตัวเอง ก่อนที่ครึ่งหลังจะได้ถ่างออกเป็นปีกขวาที่ถนัด (เสียที) และก็เริ่มเล่นดีขึ้นมาทันตา เพียงแต่ก็ยังไร้ทีเด็ดทีขาด และโดนถอดออกในที่สุด สำรอง มิไคโล มูดริค (แทน คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ น.46) – 4 ลงสำรองครึ่งหลังไปเล่นปีกซ้าย แล้วเรียกฟาวล์ได้ในจุดอันตราย น.61 แต่ทีมก็ฉวยโอกาสจากฟรีคิกไม่ได้ จากนั้นก็ค่อนข้างเงียบ โดยรวมยังถือว่ามีบทบาทน้อยไปหน่อย ยังทำงานไม่คุ้มค่าตัว ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง (แทน เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า น.46) – 5 ลงสำรองครึ่งหลังไปยืนค้ำหน้าเป้า แต่ 1.พยายามเล่นท่ายากไปหน่อย (ตีลังกายิง) ในโอกาสลุ้นแรกจนพลาดไป ถัดมา 2. ลื่นจนเสียจังหวะและยิงเข้ามือนายทวารง่ายๆ ตามด้วย 3. โถมโขกจ่อๆ ไม่เข้าเป้า และ 4. ทะลุเข้าส่องเน้นๆ ก็ยังตรงตัวนายประตู แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสนิมเกาะแข้งไปหมดแล้ว เจา เฟลิกซ์ (แทน เอ็นโซ เฟร์นานเดซ น.79) – 5 มีเวลาอยู่ในสนามน้อยจนสัมผัสบอลนับครั้งได้ จึงไม่ส่งอิทธิพลใดทั้งสิ้น โนนี่ มาดูเอเก้ (แทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.79) – 5 เปลี่ยนตามตำแหน่ง และเหมือนให้โอกาสเด็กลงไปสัมผัสเกมช่วงท้าย มากกว่าจะหวังอะไร UDM88 สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://ufadiamond.ibetauto.com/ufadiamond/ufabet/register สอบถามเพิ่มเติม 🆔 𝙇𝙄𝙉𝙀 : https://line.me/R/ti/p/@078kxfrn